สภาแห่งชาติอิหร่านตัดสินคดีอย่างโหดเหี้ยมอำมหิต สั่งลงโทษชายวัย 27 ปี หลังก่อเหตุวิวาท-ทำร้ายร่างกายคู่กรณีจนสูญเสียดวงตา โดยการให้ควักลูกตาคืนเพื่อความยุติธรรม !
ทุกวันนี้ยังคงมีประเทศที่มีกระบวนการกำหนดโทษคดีอาญาอย่างรุนแรงชนิดที่เรียกว่า ตาต่อตา ฟันต่อฟันอยู่หลายประเทศ วันนี้ (6 สิงหาคม 2558) เว็บไซต์เดลี่เมลของอังกฤษ รายงานผลการตัดสินคดีสุดโหดจากประเทศอิหร่าน หลังจากเกิดคดีวิวาทต่อสู้กันบริเวณข้างถนนเมื่อเดือนมีนาคมปี 2554 ซึ่งชายรายหนึ่งได้ทำร้ายร่างกายชายอีกคนหนึ่ง เป็นเหตุให้ดวงตาและหูของเหยื่อเสียหายอย่างละข้างและไม่สามารถใช้งานได้
จากรายงานทราบว่า ชายผู้ถูกตั้งข้อหาดังกล่าวมีชื่อว่า ฮาเมด ปัจจุบันอายุ 27 ปี เมื่อตอนเกิดเหตุเขามีอายุเพียง 23 ปี เขาได้รับสารภาพถึงการก่อคดีที่เกิดขึ้นว่า ในวันเกิดเหตุเขาได้รับทราบจากแม่ว่า พ่อของเขาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ จึงรีบเข้าไปดูที่เกิดเหตุเพื่อช่วยพ่อของเขา แต่แล้วกลับเกิดเหตุทะเลาะวิวาทขึ้นกับชายคู่กรณีที่นั่น ทั้งคู่ต่อสู้กัน และเขายืนยันว่าเขาไม่ได้มีเจตนาทำร้ายดวงตาของใคร สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นผลพวงจากการต่อสู้เท่านั้น
หลังก่อเหตุเขาถูกนำตัวส่งฟ้องสภาผู้รักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติอิหร่าน (National Council of Resistance of Iran) และมีการไต่สวนเรื่อยมา จนกระทั่งเมื่อวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา มีคำสั่งตัดสินจากสภาออกมาว่า ให้นายฮาเมดรับโทษโดยต้องถูกควักลูกตาออกมาให้ใช้งานไม่ได้ เพื่อให้รับวิบากกรรมเช่นเดียวกับเหยื่อผู้สูญเสียอวัยวะ
ทั้งนี้ตั้งแต่ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ที่นายฮัสซัน รูฮานิ ขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นประธานสภาแห่งนี้ มีจำนวนผู้ที่ถูกตัดสินประหารชีวิตเพิ่มขึ้นมากอย่างน่าตกใจ รวมไปถึงการตัดสินโทษอย่างอำมหิต อาทิ ตัดแขน-ขา และเฆี่ยนตีต่อหน้าสาธารณชนในเมือง อย่างไรก็ดีหนึ่งในสมาชิกสภาดังกล่าวซึ่งเป็นนักสิทธิมนุษยชน ได้ออกมาแสดงความเสียใจอย่างที่สุดที่ทางรัฐบาลยุโรปไม่เคยมีการออกมาประท้วง หรือคัดค้านการตัดสินของระบอบการปกครองของอิหร่านที่โหดร้ายและป่าเถื่อนเช่นนี้แต่อย่างใด
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น